ตามที่ธนาคารพาณิชย์ กำหนดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำสำหรับบัตรเครดิตที่ 5% มาตั้งระยะเวลาหนึ่ง โดยธปท. ได้ปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยลง 2 – 4% ต่อปี ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2563 แต่ตั้งแต่ปี 2567 วันที่ 1 ม.ค.2567 ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งกำหนดเก็บขั้นต่ำสำหรับบัตรเครดิตจาก 5% เป็น 8% โดยเบื้องต้นมี 4 ธนาคาร
ธ.ก.ส. จ่ายเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เริ่มโอนเงินเข้าบัญชี 28 พ.ย. นี้
AOT ขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออก อ้างติดตั้งระบบใหม่ CUPPS ดันต้นทุนเพิ่ม
เริ่มที่ธนาคารกสิกรไทย ระบุว่าเงื่อนไขใหม่การผ่อนชำระคืนขั้นต่ำบัตรเครดิต
– ตั้งแต่รอบบัญชีเดือนเมษายน 2563 ถึงรอบบัญชีเดือนธันวาคม 2566 ชำระขั้นต่ำ 5% ตัวอย่างเช่น ผู้ถือบัตรเครดิตมียอดใช้บัตรเครดิต 100,000 บาทต่อบัตร ยอดชำระขั้นต่ำ 5% เท่ากับ 5,000 บาท
– ตั้งแต่รอบบัญชีเดือนมกราคม 2567 ถึงรอบบัญชีเดือนธันวาคม 2567 ชำระขั้นต่ำ 8% ตัวอย่างเช่น ผู้ถือบัตรเครดิตมียอดใช้บัตรเครดิต 100,000 บาทต่อบัตร ยอดชำระขั้นต่ำ 8% เท่ากับ 8,000 บาท
– ตั้งแต่รอบบัญชีเดือนมกราคม 2568 เป็นต้นไป ชำระขั้นต่ำ 10% ตัวอย่างเช่น ผู้ถือบัตรเครดิตมียอดใช้บัตรเครดิต 100,000 บาทต่อบัตร ยอดชำระขั้นต่ำ 10% เท่ากับ 10,000 บาท
อย่างไรก็ตามเฉพาะรอบบัญชีเดือนเมษายน 2563 ถึงเดือนธันวาคม 2567 ธนาคารเรียกเก็บจำนวนเงินขั้นตํ่า 5% และ 8% ต่อรอบบัญชีตามจริงโดยไม่กำหนดจำนวนเงินที่ต้องชำระขั้นตํ่าที่ 1,000 บาท
เช่นเดียวกับ ธนาคารกรุงเทพและธนาคารออมสิน ขอประกาศปรับอัตราการชำระคืนขั้นต่ำรายการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตจาก 5% เป็น 8%
ส่วนการเตรียมตัวรับมือกับเงื่อนไขใหม่บัตรเครดิตใหม่ชำระขั้นต่ำ 8% จะเริ่มมีผลตั้งแต่รอบบัญชีเดือนมกราคม 2567 เป็นต้นไป
สมมติว่ามียอดใช้บัตรเครดิต 100,000 บาทต่อบัตร ในรอบปี 2566 ยอดชำระขั้นต่ำ 5,000 บาท แต่พอถึงรอบปี 2567 เป็นต้นไป ยอดชำระขั้นต่ำ 8,000 บาท ซึ่งทำให้ต้องมีภาระเพิ่มขึ้นอีกเดือนละ 3,000 บาท
ทหารไทยธนชาต(TTB) แจ้งเก็บขั้นต่ำบัตรเครดิตจากเดิมขั้นต่ำ 5% เป็น 8%
ตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทยธนาคารขอแจ้งการปรับอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำ โดยมีผลตั้งแต่รอบบัญชีเดือนมกราคม 2567 เป็นต้นไป
สำหรับบัตรเครดิต : อัตราผ่อนชำระจากเดิมขั้นต่ำ 5% เป็น 8% ของยอดเงินตามใบแจ้งยอดบัญชีเครดิต
ดังนั้น จึงต้องเตรียมตัวรับมือกับเงื่อนไขใหม่บัตรเครดิตได้อย่างทันท่วงที คือ
ต้องมีเงินสำรองเพิ่มขึ้นเช่น หากมียอดคงค้างบัตรเครดิตเฉลี่ย 100,000 บาทต่อเดือน จากเดิมที่ต้องชำระขั้นต่ำ 8,000 บาท ในรอบบัญชีเดือนมกราคม 2567 ยอดชำระขั้นต่ำจะเพิ่มขึ้นอีก 2,000 บาท เป็น 10,000 บาท ทำให้มีภาระที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ควบคุมเงินคงเหลือในแต่ละเดือนให้เป็นบวก (รวมค่าใช้จ่ายการผ่อนขั้นต่ำแล้ว) เพื่อให้ผู้ใช้บัตรเครดิต มีเงินคงเหลือเพียงพอในการดำรงชีพในแต่ละเดือนด้วย ไม่ทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลง แต่ทั้งนี้ต้องอยู่บนพื้นฐานการใช้จ่ายที่สมเหตุสมผล หลีกเลี่ยงการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือย หรือใช้จ่ายเกินความจำเป็น ซึ่งผู้ใช้บัตรเครดิตต้องเป็นผู้ประเมินเอง
ไม่สร้างหนี้เพิ่ม หากใช้บัตรเครดิตผ่อนชำระขั้นต่ำ โดยเฉพาะการใช้บัตรเครดิตกับสิ่งฟุ่มเฟือยหรือใช้ในการสันทนาการที่ไม่จำเป็น หากจำเป็นต้องใช้ควรใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคเท่าที่จำเป็น เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นหนี้ไม่จบสิ้น หรือตกอยู่ในวังวนแห่งการเป็นหนี้ ที่สำคัญต้องหลีกเลี่ยงการกู้หนี้นอกระบบมาเพื่อจ่ายหนี้เดิม ซึ่งจะทำให้มีโอกาสเข้าสู่วงจรอุบาทว์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หากประเมินว่าจ่ายไม่ไหว หากผู้ถือบัตรเดรดิตมีภาระหนี้มากกว่า 60% ของรายได้ เช่น มีเงินเดือน 20,000 บาท มีภาระหนี้ที่ต้องจ่ายทั้งหมดมากกว่า 12,000 บาท นั่นคือสัญญาณที่บอกว่ามีภาระหนี้อยู่ในเกณฑ์ที่สูง ดังนั้น การขอปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงิน จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมแต่ขอให้รีบทำเสียแต่เนิ่นๆ อย่าทิ้งไว้นาน อย่าหนี อย่าเชื่อกูรูบนโลกออนไลน์ที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน เพราะสถานการณ์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน หลายครั้งคำแนะนำที่ได้รับยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงกว่าเดิม ดังนั้น ขอให้ผู้ใช้บัตรเครดิตเข้ามาคุยกับธนาคารแบบเปิดใจ เพื่อจะได้ช่วยกันหาทางออกที่เหมาะสมที่สุด
และหากมีหนี้บัตรเครดิตหลายธนาคารแล้วจ่ายไม่ไหว แนะนำให้เข้าโครงการแก้ไขหนี้บัตรเครดิต เพื่อให้การปรับโครงสร้างหนี้เป็นไปอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด โดยมีคลีนิคแก้หนี้เป็นคนกลางในการช่วยดำเนินการให้ เพื่อทำให้ผู้ใช้บัตรเครดิตสามารถชำระหนี้ได้ตามความสามารถของตนเอง และช่วยหลุดพ้นจากวงจรหนี้ได้
ด่วน! “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” พร้อมลูกสาว ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ แฟนๆ แห่ห่วง-ส่งกำลังใจ
พยากรณ์อากาศล่วงหน้า บอกลาอากาศเย็นคำพูดจาก เว็บสล็อตแท้! หลังจากนี้ร้อนขึ้น
29 ธ.ค. 66 ธนาคารหยุด! หลังแบงก์ชาติประกาศให้เลื่อนวันหยุดชดเชยสิ้นปี